ตะวันจันทร์ดาว วังน้ำเขียว
"ตะวัน จันทร์ ดาว" ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบุไทร ตำบลไทยสามัคคี อยู่ระหว่างเขาสลัดไดและเขามะค่า ที่คงสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ในเขตตำบลไทยสามัคคีและเป็นแหล่งโอโซน ธรรมชาติอันดับ 7 ของโลก ซึ่งรอคอยให้ท่านมาสัมผัสและสรรหาสิ่งดีๆ ให้กับสุขภาพและเป็นกำไรชีวิต ซึ่งคุ้มค่าต่อการเดินทางมาเยือน ระยะทางเพียง 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร ท่านก็จะพบกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยามเช้าท่านจะพบกับแสงอาทิตย์และสายหมอก ยามสายสัมผัสสายลมจากขุนเขาที่ล้อมรอบ ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกดินในเขตป่าต้นน้ำบนผาเก็บตะวันที่ทุกคนไม่ควรพลาดเที่ยวทั่วไปไทย ไปกับเรา
เที่ยวไทย
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554
ถ้ำดินเพียง
ที่ยว "ถ้ำดินเพียง" ชมเมืองใต้บาดาลของพญานาค
"ถ้ำดินเพียง" อีก หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดถ้ำศรีมงคล (วัดถ้ำดินเพียง) ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โดยมีลักษณะคดเคี้ยวและลี้ลับ นักท่องเที่ยวควรมีร่างกายแข็งแรง เนื่องจากหลายจุดเป็นถ้ำมืด แคบ เพดานถ้ำต่ำ เตี้ยและมีธารใต้ดิน ซึ่งน้ำเย็นจัด ระดับความสูงของน้ำขึ้นกับพื้นและระดับน้ำขึ้นลงตามธรรมชาติ
โดยบางจุดต้องมุดหรือคลานผ่านซอกหิน โถงถ้ำมีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น ห้องปู่อินทร์ นาคราช ห้องเจดีย์หีบศพ ห้องแท่นบูชาบัลลังก์พญานาค ห้องธิดานาคราช ห้องช้างสาม เศียร ห้องพระคัมภีร์
การเข้าถ้ำใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที โดยต้องมีผู้น้ำเป็นคนท้องถิ่นที่ชำนาญทางมีความเชื่อว่า ถ้ำดินเพียงเป็นเส้นทางนำไปสู่ทางเชื่อมใต้บาดาลระหว่างหนองคายและ เวียงจันทน์ ซึ่งต่างเป็นเมืองที่พญานาคสร้างขึ้น และเป็นเส้นทางที่เชื่อกันว่าพระธุดงด์ในอดีตและพญานาคใช้ลอดข้ามลำน้ำโขง ระหว่าง สปป.ลาวกับไทย
ข้อมูลท่องเที่ยว - บริเวณ เดียวกับวัดถ้ำศรีมงคล (วัดถ้ำดินเพียง) ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 110 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 เลียบลำน้ำโขงประมาณ 96 กม. ถึงบ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง ซ้ายมือมีป้ายบอกทางไป วัดถ้ำศรีมงคล 14 กม.
การเดินทางไปถ้ำดินเพียง ควร แต่งกายพร้อมเปรอะเปื้อน ไปถึงไม่ควรเกินเวลา 15.00 - 16.00 น. รถใหญ่อาจจอดบริเวณที่ทำการ อบต. รถตู้สามารถไปถึงวัดศรีมงคลซึ่งเป็นที่ ตั้งของถ้ำดินเพียง
จากนั้นให้ติดต่อผู้นำทางท้องถิ่นก่อนเข้าควรศึกษาผังภายในถ้ำที่ติดตั้งไว้ ด้านหน้า พอให้เห็นภาพรวมอันสลับซับซ้อน และไหว้ขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณศาลที่ปากทางเข้า เมื่อจบการท่องเที่ยวผจญภัย อาจมอบค่าตอบแทนนำทางแก่ผู้นำทางตามสมควร
ติดต่อ องค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง - 08 1799 6414
ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
1600 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400, ประเทศไทย
โทร: 02 250 5500, TAT Call Center: 1672
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/
"ถ้ำดินเพียง" อีก หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดถ้ำศรีมงคล (วัดถ้ำดินเพียง) ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โดยมีลักษณะคดเคี้ยวและลี้ลับ นักท่องเที่ยวควรมีร่างกายแข็งแรง เนื่องจากหลายจุดเป็นถ้ำมืด แคบ เพดานถ้ำต่ำ เตี้ยและมีธารใต้ดิน ซึ่งน้ำเย็นจัด ระดับความสูงของน้ำขึ้นกับพื้นและระดับน้ำขึ้นลงตามธรรมชาติ
โดยบางจุดต้องมุดหรือคลานผ่านซอกหิน โถงถ้ำมีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น ห้องปู่อินทร์ นาคราช ห้องเจดีย์หีบศพ ห้องแท่นบูชาบัลลังก์พญานาค ห้องธิดานาคราช ห้องช้างสาม เศียร ห้องพระคัมภีร์
การเข้าถ้ำใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที โดยต้องมีผู้น้ำเป็นคนท้องถิ่นที่ชำนาญทางมีความเชื่อว่า ถ้ำดินเพียงเป็นเส้นทางนำไปสู่ทางเชื่อมใต้บาดาลระหว่างหนองคายและ เวียงจันทน์ ซึ่งต่างเป็นเมืองที่พญานาคสร้างขึ้น และเป็นเส้นทางที่เชื่อกันว่าพระธุดงด์ในอดีตและพญานาคใช้ลอดข้ามลำน้ำโขง ระหว่าง สปป.ลาวกับไทย
ข้อมูลท่องเที่ยว - บริเวณ เดียวกับวัดถ้ำศรีมงคล (วัดถ้ำดินเพียง) ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 110 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 เลียบลำน้ำโขงประมาณ 96 กม. ถึงบ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง ซ้ายมือมีป้ายบอกทางไป วัดถ้ำศรีมงคล 14 กม.
การเดินทางไปถ้ำดินเพียง ควร แต่งกายพร้อมเปรอะเปื้อน ไปถึงไม่ควรเกินเวลา 15.00 - 16.00 น. รถใหญ่อาจจอดบริเวณที่ทำการ อบต. รถตู้สามารถไปถึงวัดศรีมงคลซึ่งเป็นที่ ตั้งของถ้ำดินเพียง
จากนั้นให้ติดต่อผู้นำทางท้องถิ่นก่อนเข้าควรศึกษาผังภายในถ้ำที่ติดตั้งไว้ ด้านหน้า พอให้เห็นภาพรวมอันสลับซับซ้อน และไหว้ขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณศาลที่ปากทางเข้า เมื่อจบการท่องเที่ยวผจญภัย อาจมอบค่าตอบแทนนำทางแก่ผู้นำทางตามสมควร
ติดต่อ องค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง - 08 1799 6414
ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
1600 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400, ประเทศไทย
โทร: 02 250 5500, TAT Call Center: 1672
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/
ปากช่อง
เที่ยวปากช่อง ดินแดนแห่งไร่องุ่นและปศุสัตว์
"ปากช่อง" คือดินแดนแห่งไร่องุ่นและปศุสัตว์ ทั้งเป็นอาณาจักรผลไม้ที่กว้างใหญ่ มีผลผลิตหมุนเวียนกันตลอดปี ไร่องุ่น สวนกุหลาบ สวนผลไม้ กระจายกันอยู่ในอำเภอปากช่อง ชนิดที่เรียกได้ว่าเลี้ยวเข้าถนนสายหนึ่งเที่ยวตลอดเดือนก็ยังไม่ครบ พื้นที่ท่องเที่ยวบริเวณปากช่องได้แก่
- ตลาดผลไม้กลางดง ตำบลกลางดง เป็นตลาดริมทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพช่วงสระบุรี-นครราชสีมา) มีเพิงค้าผลไม้ตั้งเรียงรายหลายสิบร้าน สินค้าเช่นผลไม้พื้นเมืองตามฤดูกาลโดยเฉพาะน้อยหน่าซึ่งมีตลอดปี และหนาแน่นระหว่างเดือนกรกฎาคม - เดือนสิงหาคม พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่พันธุ์ฝ้าย (ดั้งเดิม) ซึ่งกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง รสหวานจัดเนื้อนุ่ม เมล็ดมาก พันธุ์หนัง ซึ่งพัฒนาขึ้นภายหลัง รสหวานอ่อนเนื้อเหนียว เมล็ดน้อย พันธุ์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงหนึ่งและพันธุ์เพชรปากช่อง ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีสวนต่างๆอีกจำนวนมาก อาทิเช่น
- บ้านสวนฝรั่งไร่กิจประมวล ตำบล หนองน้ำแดง พื้นที่ 50 ไร่ ปลูกมะม่วง ชมพู่ กระท้อน ที่มีชื่อเสียงคือฝรั่งพันธุ์กลมสาลีพันธุ์กิมจู (ไร้เมล็ด) มีร้านอาหาร เปิดตลอดปี
- ไร่ฐิตวันต์ ตำบลขนงพระ พื้นที่ 54 ไร่ ปลูกแตงญี่ปุ่น องุ่นไร้เมล็ด พริกหวาน ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง และข้าวโพดรับประทานสดโดยไม่ต้องต้ม เปิดเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์
- ไร่องุ่นเขาใหญ่ไวน์เนอร์รี่ ตำบลพญาเย็น พื้นที่ 400 ไร่ ปลูกองุ่นรับประทานสด และผลิตไวน์ มีร้านอาหาร ร้านจำหน่าย ผลิตภัณฑ์องุ่นแปรรูป ที่พักแบบรีสอร์ท ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พ.ศ.2551 เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นครูเสน่ห์ ตำบล กลางดง พื้นที่ 15 ไร่ ปลูกองุ่นทั้งแบบมีเมล็ดและไร้เมล็ด แก้วมังกร ส้มโอ ส้มโชกุน ส้มเขียวหวาน และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่น เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นประภัฎสร ตำบลบลกลางดง ปลูกองุ่นพันธุ์ไร้เมล็ด เมล่อน แก้วมังกร มีสถานที่กางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติ เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นสุพัตรา ตำบลกลางดง ปลูกองุ่นทั้งแบบมีเมล็ดและไร้เมล็ด มีผลิตภัณฑ์จากองุ่นและกิ่งพันธุ์องุ่นจำหน่าย พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการปลูก เปิดให้บริการตลอดปี
- สวนกุหลาบกลางพนา ตำบลหมูสี พื้นที่ 5 ไร่ ปลูกกุหลาบพันธุ์ต่างประเทศ พื้นที่ 100 ไร่ ปลูกมะม่วงลำไย เปิดตลอดทั้งปี
- สวนครัวเขาใหญ่ ตำบลปากช่อง พื้นที่ 10 ไร่ ปลูกผลไม้ปลอดสารพิษ เช่น เงาะ ทุเรียน ขนุน น้อยหน่า มะม่วง สาเก กระท้อน ลิ้นจี่ และมะเฟือง มีร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ใช้ ผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
- สวนจิตรา ตำบลปากช่อง ปลูกองุ่นไร้เมล็ด และมีแปลงขิงแดง ขิงชมพู ดาหลา คาริบเบียแดง เซ็กซี่พิงค์ เรนโบว์ จำหน่ายทั้งต้นและดอก เปิดตลอดปี มีมุมกาแฟและขนมบริการ
- โชคชัยฟาร์ม ตำบลหนองน้ำแดง ตำนานการท่องเที่ยวไร่ปศุสัตว์ของไทย
- ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ ตำบล พญาเย็นแหล่งผลิตไวน์ไทยคุณภาพสูง พีบี วัลเลย์ ตำบลพญาเย็น อีกหนึ่งตำนานของไวน์จากเขาใหญ่ ทั้ง 3 แห่งได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลายครั้งและรักษามาตรฐานสถานที่ ท่องเที่ยวไว้ได้ยาวนาน
ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
1600 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400, ประเทศไทย
โทร: 02 250 5500, TAT Call Center: 1672
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/
"ไร่องุ่นในปากช่อง"
- ตลาดผลไม้กลางดง ตำบลกลางดง เป็นตลาดริมทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพช่วงสระบุรี-นครราชสีมา) มีเพิงค้าผลไม้ตั้งเรียงรายหลายสิบร้าน สินค้าเช่นผลไม้พื้นเมืองตามฤดูกาลโดยเฉพาะน้อยหน่าซึ่งมีตลอดปี และหนาแน่นระหว่างเดือนกรกฎาคม - เดือนสิงหาคม พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่พันธุ์ฝ้าย (ดั้งเดิม) ซึ่งกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง รสหวานจัดเนื้อนุ่ม เมล็ดมาก พันธุ์หนัง ซึ่งพัฒนาขึ้นภายหลัง รสหวานอ่อนเนื้อเหนียว เมล็ดน้อย พันธุ์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงหนึ่งและพันธุ์เพชรปากช่อง ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
"ฟาร์มปศุสัตว์ในปากช่อง"
นอกจากนี้ยังมีสวนต่างๆอีกจำนวนมาก อาทิเช่น
- บ้านสวนฝรั่งไร่กิจประมวล ตำบล หนองน้ำแดง พื้นที่ 50 ไร่ ปลูกมะม่วง ชมพู่ กระท้อน ที่มีชื่อเสียงคือฝรั่งพันธุ์กลมสาลีพันธุ์กิมจู (ไร้เมล็ด) มีร้านอาหาร เปิดตลอดปี
- ไร่ฐิตวันต์ ตำบลขนงพระ พื้นที่ 54 ไร่ ปลูกแตงญี่ปุ่น องุ่นไร้เมล็ด พริกหวาน ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง และข้าวโพดรับประทานสดโดยไม่ต้องต้ม เปิดเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์
- ไร่องุ่นเขาใหญ่ไวน์เนอร์รี่ ตำบลพญาเย็น พื้นที่ 400 ไร่ ปลูกองุ่นรับประทานสด และผลิตไวน์ มีร้านอาหาร ร้านจำหน่าย ผลิตภัณฑ์องุ่นแปรรูป ที่พักแบบรีสอร์ท ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พ.ศ.2551 เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นครูเสน่ห์ ตำบล กลางดง พื้นที่ 15 ไร่ ปลูกองุ่นทั้งแบบมีเมล็ดและไร้เมล็ด แก้วมังกร ส้มโอ ส้มโชกุน ส้มเขียวหวาน และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่น เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นประภัฎสร ตำบลบลกลางดง ปลูกองุ่นพันธุ์ไร้เมล็ด เมล่อน แก้วมังกร มีสถานที่กางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติ เปิดตลอดปี
- ไร่องุ่นสุพัตรา ตำบลกลางดง ปลูกองุ่นทั้งแบบมีเมล็ดและไร้เมล็ด มีผลิตภัณฑ์จากองุ่นและกิ่งพันธุ์องุ่นจำหน่าย พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการปลูก เปิดให้บริการตลอดปี
- สวนกุหลาบกลางพนา ตำบลหมูสี พื้นที่ 5 ไร่ ปลูกกุหลาบพันธุ์ต่างประเทศ พื้นที่ 100 ไร่ ปลูกมะม่วงลำไย เปิดตลอดทั้งปี
- สวนครัวเขาใหญ่ ตำบลปากช่อง พื้นที่ 10 ไร่ ปลูกผลไม้ปลอดสารพิษ เช่น เงาะ ทุเรียน ขนุน น้อยหน่า มะม่วง สาเก กระท้อน ลิ้นจี่ และมะเฟือง มีร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ใช้ ผักสวนครัวปลอดสารพิษไว้บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
- สวนจิตรา ตำบลปากช่อง ปลูกองุ่นไร้เมล็ด และมีแปลงขิงแดง ขิงชมพู ดาหลา คาริบเบียแดง เซ็กซี่พิงค์ เรนโบว์ จำหน่ายทั้งต้นและดอก เปิดตลอดปี มีมุมกาแฟและขนมบริการ
- โชคชัยฟาร์ม ตำบลหนองน้ำแดง ตำนานการท่องเที่ยวไร่ปศุสัตว์ของไทย
- ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ ตำบล พญาเย็นแหล่งผลิตไวน์ไทยคุณภาพสูง พีบี วัลเลย์ ตำบลพญาเย็น อีกหนึ่งตำนานของไวน์จากเขาใหญ่ ทั้ง 3 แห่งได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลายครั้งและรักษามาตรฐานสถานที่ ท่องเที่ยวไว้ได้ยาวนาน
ข้อมูลโดย : โครงการ 7greens - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
1600 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400, ประเทศไทย
โทร: 02 250 5500, TAT Call Center: 1672
เว็บไซต์ : http://7greens.tourismthailand.org/
Create Date : 13 กันยายน 2554 Last Update : 13 กันยายน 2554 18:11:16 น. Counter : Pageviews. | 2 comments
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:8:09:44 น.
เคยผ่านอย่างเดียว ยังไม่เคยรู้เลยข้างในมีอะไร เยอะมากน่าเที่ยวจัง
Read more: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=newcar&month=13-09-2011&group=3&gblog=89#ixzz1YUyoOQJ7
อ่าวนางบุรี..
กระบี่จ๋ามาหาอีกแล้ว : อ่าวนางบุรี..
พิกัดก็ตามนี้เลยนะคะ พอดีเจอแผนที่เลยเอามาแปะซะหน่อย
แต่อาหารเช้ามื้อนี้อาจจะสายไปหน่อย..ตลาดวายไปเรียบร้อย
เราเป็นโต๊ะสุดท้าย แต่ทางร้านก็รับรองอย่างดี ในร้านโต๊ะเพียบเลยทีเดียว
เอาถาดไปเลือกติ่มซำมาส่งให้ทางร้านอุ่น อยาำกทานอะไรก็หยิบใส่ถาดกันมาเลย
อุ่นเสร็จแล้วทางร้านก็นำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
ติ่มซำที่(บ้านเราคิดว่า)แปลก ก็เช่น ห่อหมกปลา ซึ่งอร่อยมากกกขอบอกต่อ ไม่เผ็ดมาก ปลานิ่ม ไม่คาว
(ปกติอุ๋มไม่กินปลานึ่งๆแบบนี้จะทานแต่ปลาทอดแต่วันนี้สู้ตาย)
โทรฟี่เองขนาดกินข้าวไข่ดาวมาจากบ้านต่อด้วยคุกกี้และแซนวิชครัวซองบนเครื่องไปครึ่งอัน
ก็ยังหม่ำติ่มซำกับซดบักกุดเต๋ไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว..
เสร็จจากภารกิจการกินไม่รู้จะทำอะไรต่อ ก็ไปนั่งชิวที่ Krabi Kart Speedway ละกัน
อากาศวันนี้ก็ครึ้มๆกำลังดี ก็เลยพาเด็กน้อยเดินเล่นหากิ้งกา จิ้งหรีด
อุ๋มเดินถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆ โทรฟี่ก็ขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย ทำตัวเป็นกิ้งก่าสาระพัดแอ็คฯ
แต่ซักพักพระพิรุณก็พร่างพรมฝนปรอยเล็กๆลงมาเลยสรุปว่าถ่ายได้โค้งเดียว
(ไม่กี่ภาพ ไม่ดีอีกต่างหากเพราะคนถือกล้องตัวเตี้ยไปหน่อย 55)
ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเลยออกจาสนามไป Check In กันที่ "อ่าวนางบุรี" ดีกว่า...อากาศกำลังน่านอน
(อื่ม..ตกลงมาเปลี่ยนที่นอน??)
วันนี้เราพักกันแบบ Pool Access เพราะราคารวมอาหารเช้าไม่แพงเท่าไหร่
และที่สำคัญ...ฝนหยุดตกแล้วสาวน้อยรีบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำกระโดดตูมทันทีเป็นที่สนุกสนาน
ฝนหยุดเลยลงเล่นกันพักใหญ่ ฟี่ง่วงจะหลับเลยตัดสินใจว่าสั่งอาหารจากครัวด้านหน้ามาละกัน
เป็นข้าวผัดปู กับกุ้งชุบแป้งทอดให้โทรฟี่.. กินเสร็จหลับคร่อกกกกจนถึงห้าโมงเย็น
เด็กตื่นก็รีบกุลีกุจออยากจะเดินหาดเลยทีเดียว วันนี้หาดนพรัตน์ธาราดูคึกคักกว่าคราวที่แล้ว
หาดทรายทอดยาวเด็กก็เดินสำรวจปูลม ปูเสฉวน ฯลฯ กันไป
โชคดีจังเจอดอกไม้ทะเลด้วย
โทรฟี่ก็ยืนสังเกตการณ์เป็นนานสองนาน เล่นกันจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเลย
ที่สุดท้ายที่ไม่แวะไม่ได้...คือโรตีหน้า Krabi Resort เจ้านี้
โรตีกรอบ ทานูเทลล่าของโปรดของลูก อร่อยมากมาย
อิ่มกันแบบสุดๆ ได้เวลากลับโรงแรมไปนอนเก็บแรง
ก่อนนอนขอฝากรูปอ่าวนางบุรียามค่ำคืนจากห้องของเรา
เคล้าเสียงกลไม้ อบอบ อบอบ อบอบอบอบอบ จากเจ้ากบไม้ก่อนนอน ><’
(เล่นจนหลับกลางอากาศ กบไม้ยังคามืออยู่เลย 55)
จากกระบี่ทริปเดือนที่แล้ว...ยังไม่ครบเดือนเราก็เหินฟ้าไปกระบี่กันอีกครั้ง
ครั้งนี้ได้รับคำแนะนำเรื่องโรงแรมถูกคุณภาพโอเชจากเพื่อนร่วมงาน
เลยลงเอยที่ “อ่าวนางบุรี”เป็นที่เรียบร้อยแบบไม่ได้คิดอะไรเลย 55
แบบว่าเค้าบอกมาว่าดี คุ้มราคา ติดหาด สระร่มว่ายได้เกือบตลอดวัน ก็ตามนั้น ^^
ป่าป๊าล่วงหน้าไปทำงานก่อนแล้วเหลือเด็กและสตรีอีก 1 คู่จับเครื่องบินไฟลท์เช้าตรูตามไปกัน
TG241 แตะพื้นท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ
สิ่งแรกสำหรับทริปกระบี่(และทุกๆทริป)ของบ้านเราหนีไม่พ้นเรื่องกิน กิน และกิน
เพราะฉะนั้น ออกจากสนามบินแล้วก็หาของกินกันโลดเลย เติมพลังก่อนคิดการณ์อื่น
มาใต้แบบนี้อาหารเช้าคงไม่พ้นติ่มซำ เลยไปลงเอยกันที่ร้าน “KU. กระบี่ ติ่มซำ”
ใครเป็นศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน KU ก็ไปอุดหนุนกันได้
เพราะ KU ร้านนี้ย่อมาจาก Kasetsart University นั้นแล
ครั้งนี้ได้รับคำแนะนำเรื่องโรงแรมถูกคุณภาพโอเชจากเพื่อนร่วมงาน
เลยลงเอยที่ “อ่าวนางบุรี”เป็นที่เรียบร้อยแบบไม่ได้คิดอะไรเลย 55
แบบว่าเค้าบอกมาว่าดี คุ้มราคา ติดหาด สระร่มว่ายได้เกือบตลอดวัน ก็ตามนั้น ^^
ป่าป๊าล่วงหน้าไปทำงานก่อนแล้วเหลือเด็กและสตรีอีก 1 คู่จับเครื่องบินไฟลท์เช้าตรูตามไปกัน
TG241 แตะพื้นท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ
สิ่งแรกสำหรับทริปกระบี่(และทุกๆทริป)ของบ้านเราหนีไม่พ้นเรื่องกิน กิน และกิน
เพราะฉะนั้น ออกจากสนามบินแล้วก็หาของกินกันโลดเลย เติมพลังก่อนคิดการณ์อื่น
มาใต้แบบนี้อาหารเช้าคงไม่พ้นติ่มซำ เลยไปลงเอยกันที่ร้าน “KU. กระบี่ ติ่มซำ”
ใครเป็นศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน KU ก็ไปอุดหนุนกันได้
เพราะ KU ร้านนี้ย่อมาจาก Kasetsart University นั้นแล
พิกัดก็ตามนี้เลยนะคะ พอดีเจอแผนที่เลยเอามาแปะซะหน่อย
แต่อาหารเช้ามื้อนี้อาจจะสายไปหน่อย..ตลาดวายไปเรียบร้อย
เราเป็นโต๊ะสุดท้าย แต่ทางร้านก็รับรองอย่างดี ในร้านโต๊ะเพียบเลยทีเดียว
เอาถาดไปเลือกติ่มซำมาส่งให้ทางร้านอุ่น อยาำกทานอะไรก็หยิบใส่ถาดกันมาเลย
อุ่นเสร็จแล้วทางร้านก็นำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
และไม่ลืมสั่งบักกุดเต๋มาซดร้อนๆคู่กันด้วย นอกจากนี้ยังมีต้มเลือดหมูกับโรตีน้ำแกง
ติ่มซำที่(บ้านเราคิดว่า)แปลก ก็เช่น ห่อหมกปลา ซึ่งอร่อยมากกกขอบอกต่อ ไม่เผ็ดมาก ปลานิ่ม ไม่คาว
(ปกติอุ๋มไม่กินปลานึ่งๆแบบนี้จะทานแต่ปลาทอดแต่วันนี้สู้ตาย)
โทรฟี่เองขนาดกินข้าวไข่ดาวมาจากบ้านต่อด้วยคุกกี้และแซนวิชครัวซองบนเครื่องไปครึ่งอัน
ก็ยังหม่ำติ่มซำกับซดบักกุดเต๋ไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว..
เสร็จจากภารกิจการกินไม่รู้จะทำอะไรต่อ ก็ไปนั่งชิวที่ Krabi Kart Speedway ละกัน
อากาศวันนี้ก็ครึ้มๆกำลังดี ก็เลยพาเด็กน้อยเดินเล่นหากิ้งกา จิ้งหรีด
อุ๋มเดินถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆ โทรฟี่ก็ขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย ทำตัวเป็นกิ้งก่าสาระพัดแอ็คฯ
แต่ซักพักพระพิรุณก็พร่างพรมฝนปรอยเล็กๆลงมาเลยสรุปว่าถ่ายได้โค้งเดียว
(ไม่กี่ภาพ ไม่ดีอีกต่างหากเพราะคนถือกล้องตัวเตี้ยไปหน่อย 55)
ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเลยออกจาสนามไป Check In กันที่ "อ่าวนางบุรี" ดีกว่า...อากาศกำลังน่านอน
(อื่ม..ตกลงมาเปลี่ยนที่นอน??)
วันนี้เราพักกันแบบ Pool Access เพราะราคารวมอาหารเช้าไม่แพงเท่าไหร่
และที่สำคัญ...ฝนหยุดตกแล้วสาวน้อยรีบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำกระโดดตูมทันทีเป็นที่สนุกสนาน
ฝนหยุดเลยลงเล่นกันพักใหญ่ ฟี่ง่วงจะหลับเลยตัดสินใจว่าสั่งอาหารจากครัวด้านหน้ามาละกัน
เป็นข้าวผัดปู กับกุ้งชุบแป้งทอดให้โทรฟี่.. กินเสร็จหลับคร่อกกกกจนถึงห้าโมงเย็น
เด็กตื่นก็รีบกุลีกุจออยากจะเดินหาดเลยทีเดียว วันนี้หาดนพรัตน์ธาราดูคึกคักกว่าคราวที่แล้ว
หาดทรายทอดยาวเด็กก็เดินสำรวจปูลม ปูเสฉวน ฯลฯ กันไป
เดินไปสงสัยไป แม่ก็ตอบคำถามลูกไปเป็นที่สนุกสนาน
โชคดีจังเจอดอกไม้ทะเลด้วย
โทรฟี่ก็ยืนสังเกตการณ์เป็นนานสองนาน เล่นกันจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเลย
มื้อค่ำวันนี้ให้คุณลูกเป็นคนเลือกว่าอยากทานอะไร โทรฟี่บอกสปาเก็ตตี้ต่อด้วยโรตีนูเทลล่า
พ่อแม่ถอนหายใจเฮือก(ไม่น่ารุย) ก็เลยวินๆ อาหารทะเล+สปาเก็ตตี้กันที่ “อ่าวนางซีฟู๊ด”
และ....นอกจากสปาเก็ตตี้แล้วโทรฟี่อยากนั่งรถซาเล้งด้วย
เลยขับรถไปจอดไกลๆ นั่งซาเล้งมาที่อ่าวนางซีฟู๊ด กินเสร็จเดินเล่นนิดหน่อยแล้วกลับ
ตอนแรกก็เตรียมใจกับอาหารทะเลรสชาติฝรั่งๆไว้แล้วอ่าน้า
แต่..ไม่คิดว่าห่อหมกทะเลจะออกมาหน้าตาแนวทะเลผัดไข่ใส่ในลูกมะพร้าวแบบนี้อ่า
แถมมีแต่ปลาหมึกกับกุ้ง(เล็กๆ) ด้วย.. นึกว่าจะมีแบบหอยแมลงภู่ ก้ามปู อะไรแบบนี้
แต่สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโทรฟี่ อร่อยมาก.. ^^
พ่อแม่ถอนหายใจเฮือก(ไม่น่ารุย) ก็เลยวินๆ อาหารทะเล+สปาเก็ตตี้กันที่ “อ่าวนางซีฟู๊ด”
และ....นอกจากสปาเก็ตตี้แล้วโทรฟี่อยากนั่งรถซาเล้งด้วย
เลยขับรถไปจอดไกลๆ นั่งซาเล้งมาที่อ่าวนางซีฟู๊ด กินเสร็จเดินเล่นนิดหน่อยแล้วกลับ
ตอนแรกก็เตรียมใจกับอาหารทะเลรสชาติฝรั่งๆไว้แล้วอ่าน้า
แต่..ไม่คิดว่าห่อหมกทะเลจะออกมาหน้าตาแนวทะเลผัดไข่ใส่ในลูกมะพร้าวแบบนี้อ่า
แถมมีแต่ปลาหมึกกับกุ้ง(เล็กๆ) ด้วย.. นึกว่าจะมีแบบหอยแมลงภู่ ก้ามปู อะไรแบบนี้
แต่สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโทรฟี่ อร่อยมาก.. ^^
อิ่มท้องเสร็จก็ไปเดินเล่นกันเป้าหมายของโทรฟี่วันนี้คือกบไม้และโรตี 55
ฟี่ของแม่ฮาได้อีก มาทะเลจะกินสปาเก็ตตี้ เดิน Walking Street กระบี่จะเอาของฝากเชียงใหม่
เพราะกบไม้เนี่ยเคยเห็นว่ามีตั้งขายที่เชียงใหม่เยอะ และตัวละไม่กี่สิบบาทเอง
แต่เห็นเค้าตั้งใจอยากซื้อไปฝากน้องสาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ของตัวเอง
แบบว่า...ความตั้งใจแรงกล้ามาก เลยพาไปซื้อซะหน่อย
ฟี่ของแม่ฮาได้อีก มาทะเลจะกินสปาเก็ตตี้ เดิน Walking Street กระบี่จะเอาของฝากเชียงใหม่
เพราะกบไม้เนี่ยเคยเห็นว่ามีตั้งขายที่เชียงใหม่เยอะ และตัวละไม่กี่สิบบาทเอง
แต่เห็นเค้าตั้งใจอยากซื้อไปฝากน้องสาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ของตัวเอง
แบบว่า...ความตั้งใจแรงกล้ามาก เลยพาไปซื้อซะหน่อย
ที่สุดท้ายที่ไม่แวะไม่ได้...คือโรตีหน้า Krabi Resort เจ้านี้
โรตีกรอบ ทานูเทลล่าของโปรดของลูก อร่อยมากมาย
อิ่มกันแบบสุดๆ ได้เวลากลับโรงแรมไปนอนเก็บแรง
ก่อนนอนขอฝากรูปอ่าวนางบุรียามค่ำคืนจากห้องของเรา
เคล้าเสียงกลไม้ อบอบ อบอบ อบอบอบอบอบ จากเจ้ากบไม้ก่อนนอน ><’
(เล่นจนหลับกลางอากาศ กบไม้ยังคามืออยู่เลย 55)
เที่ยวสวนสัตว์สงขลา
วันนี้พามาเที่ยวสวนสัตว์นะค่ะ
ก็วันหยุดปกติก็จะพาลูก ๆ ไปนอกบ้าน
เมื่อวัน เสาร์ (27 ส.ค. 54) ก็พาคุณลูกไปเที่ยวชมสัตว์ดีกว่า
.
.
ไปสวนสัตว์สงขลาค่ะ
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 70 บาท รถยนต์ 50 บาท
ส่วนเด็กขนาดน้องกัน - น้องคุกกี้ ฟรีค่ะ
.
.
เริ่มไปกันเลยน่ะ
ฝนเริ่มจะตกหนักแล้วค่ะ
ขับรถยนต์ ชมผ่านหน้าต่างแล้วกันน่ะ
เกาะหน้าต่างดูค่ะ
เห็นโซนฮิปโปโปเตมัส น่าดูจัง ต้องแวะค่ะ
แล้วก็ถูกใจจริง ๆ ค่ะ สงกะสัยยืนตรงจุด
ฮิปโปอ้าปาก
ทุกคนที่ยืนชมอยู่บนศาลา (หลบฝนดูข้างบน) ตื่นเต้นกันใหญ่
รีบลงมาดูค่ะ บอกว่า สงกะสัยเห็นกล้องอยากถ่ายรูป
(แต่สาละมี บอกว่า น่าจะเป็นจุดให้อาหารอ่ะ 555)
แวะชมการแสดงของแมวน้ำเล็กน้อยค่ะ
สุดท้าย ท้ายสุด ก็คือ คุณช้างไทยค่ะ
ไปชมกันน่ารัก ตามประสาเด็ก ๆ
วันนี้ เด็ก ๆ สนุก ตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นมาก ๆ ค่ะ
ยิ่งน้องกัน ยิ่งเหมือนนักผจญภัยเดินทางไปตามแผนที่
(ดูแผนผังแสดงพื้นที่ภายในสวนสัตว์ ที่เจ้าหน้าที่แจกค่ะ)
แต่ก็ลืมเลี้ยวเข้าไปดูสัตว์ 1 โซน พลาดไป 5-6 ชนิด
น้องกันเสียใจนิด ๆ แต่ก็ไปตามจุดที่เหลือ
คุณพ่อใจดี ขับเวียนมาใหม่อีกรอบ เพื่อที่จะเข้าจุดที่ลืม
(เพราะ ห้ามย้อนศรค่ะ เป็น one way)
สรุปว่า ได้เวียนเที่ยวรอบสวนสัตว์ 2 รอบเลยค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)